ปัจจุบันมีหัตถการที่ช่วยเรื่องความหย่อนคล้อยได้เป็นอย่างดี พร้อมผลลัพธ์ยาวนานเป็น 10 ปี นั่นก็คือ Full Face Lifting บริการผ่าตัดดึงหน้าทั่วใบหน้า โดยปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อย เป็นปัญหาที่พบได้ทั่วไปกับคนที่เริ่มมีอายุไม่ว่าจะเป็นผู้ชาย หรือผู้หญิง
โดยเฉพาะผู้ที่มีพฤติกรรมการใช้ชีวิต ที่ส่งผลต่อการเสื่อมสภาพของผิวเร็วกว่าปกติ ไม่ว่าจะเป็น การรับแสงอาทิตย์เป็นเวลานานโดยไม่ได้ทาครีมกันแดด ผู้ที่สูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ หรือผู้ที่มีความเครียดสะสม คนกลุ่มนี้ก็จะพบปัญหาริ้วรอย และความหย่อนคล้อยได้เร็วกว่าคนที่ดูแลตัวเองอยู่เสมอ
และสำหรับใครที่กำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับศัลยกรรมดึงหน้า ในบทความนี้เราได้เตรียมข้อควรรู้ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ข้อควรปฏิบัติทั้งก่อน-หลัง รับบริการ ขั้นตอนการผ่าตัด รวมถึงใครบ้างที่เหมาะจะทำ Full Face Lifting หากพร้อมกันแล้ว มาติดตามกันต่อได้ในบทความกันเลย !
Full face lifting เหมาะกับใครบ้าง
สำหรับใครที่กำลังเผชิญกับปัญหาริ้วรอยความหย่อนคล้อยแห่งวัย ก็อย่าเพิ่งเป็นกังวลไปกับคำว่าผ่าตัด เพราะการผ่าตัดดึงหน้านั้น ไม่ใช่การผ่าตัดขนาดใหญ่ที่มีความเสี่ยงสูง ดังนั้นนอกจากจะเป็นการแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด และได้ผลลัพธ์ที่ดีแล้ว แผลยังเล็กมากจนบางเคสถ้าไม่สังเกตดีๆ ก็จะมองไม่เห็นแผลเลย เพราะเราใช้เทคนิคการเย็บแบบซ่อนแผล ดังนั้นจึงไม่ปรากฏแผลภายนอกแม้จะเป็นการผ่าตัดดึงทั่วใบหน้าก็ตาม
โดยการศัลยกรรมดึงหน้านั้นจะเหมาะอย่างยิ่งกับ
- ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย ความหย่อนคล้อยทุกจุด ทุกบริเวณทั่วใบหน้า และลำคอ ทำให้ภาพรวมมีความเหี่ยวโทรม และมีอายุ
- ผู้ที่มีปัญหาความเหี่ยวย่นรอบดวงตา หรือหนังตาตก ส่งผลต่อการมองเห็น หรือแม้แต่ผู้ที่มีริ้วรอยฝังลึก สังเกตเห็นได้แม้จะไม่ได้แสดงสีหน้าก็ตาม
- ผู้ที่มีปัญหาแก้มหย่อนคล้อย หรือมีร่องน้ำหมาก เวลาแต่งหน้าแล้วเห็นเป็นเส้นชัดเจน
- ลำคอเหี่ยวย่น เหมือนเต่า ดูไม่ตึงกระชับ และอ่อนเยาว์
วิธีเตรียมตัวก่อนทำ Full face lifting
ขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนตัดสินใจ และเข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้านั้น ก็มีขั้นตอนที่ไม่ลำบากยุ่งยาก โดยแต่ละขั้นตอนจะคล้ายกับการผ่าตัดทั่วไป ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
- แจ้งให้แพทย์ทราบถึง ประวัติสุขภาพอย่างละเอียด เช่น ประวัติการแพ้ยา ประวัติการผ่าตัด ประวัติการแพ้อาหาร หรือหากมีประวัติการรักษาจากโรงพยาบาลอื่นๆ สามารถนำมาประกอบการวางแผนการรักษาได้
- สำหรับผู้ที่ได้รับ ยาละลายลิ่มเลือด และยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด จำพวก แอสไพริน Coumadin Plavix หรือยาแก้ปวดกลุ่ม NSAID ควรนำมา หรือแจ้งแพทย์เจ้าของเคสอย่างละเอียด
- งดทานอาหารเสริม และวิตามินต่างๆ อย่างน้อยเป็นเวลา 1 เดือน ก่อนผ่าตัด
- สระผมให้สะอาด และงดแต่งหน้าในวันที่ผ่าตัด รวมถึงงดสวมเครื่องประดับทุกชนิดเข้าห้องผ่าตัด
- งดสูบบุหรี่อย่างน้อย 4 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด เพราะอาจทำให้แผลหายช้ากว่าปกติ และมีโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากกว่าปกติ
- ก่อนผ่าตัดงดการทาเล็บเท้า เล็บมือ หรือการต่อเล็บ
- ตรวจเลือดก่อนเข้ารับการผ่าตัดประมาณ 5-7 วัน (สามารถใช้ผลเลือดจากรพ.อื่นๆ ได้)
- คนไข้ที่มีอายุมากกว่า 45 ปี ต้องมีผลตรวจสุขภาพ และใบรับรองแพทย์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด
- เตรียมสภาพจิตใจให้พร้อม หลังการผ่าตัดอาจมีการอักเสบ บวม แดง หรือเกิดการเปลี่ยนแปลงบนใบหน้า ซึ่งอาจใช้เวลาการรักษาระยะหนึ่ง และอาจต้องใช้เวลาในการคุ้นชินกับภาพลักษณ์ใหม่
ขั้นตอนการผ่าตัด ศัลยกรรมดึงหน้า Full face lifting
หลังจากทราบข้อควรปฏิบัติก่อนเข้ารับการผ่าตัดดึงหน้าแล้ว ถัดไปจะเป็นขั้นตอนการเข้ารับการปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมวางแผนการรักษา โดยหลังจากที่คุณสามารถเลือกคุณหมอ และคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือแล้ว ก็สามารถเดินเข้าไป หรือสอบถามข้อมูลออนไลน์ก่อนเข้าพบแพทย์ได้ทันที
- ปรึกษาคุณหมอ – ขั้นตอนแรกคือการปรึกษา และแจ้งข้อมูลสำคัญทั้งหมดกับแพทย์เจ้าของเคส เพื่อนำข้อมูลทั้งหมดมาประกอบการวางแผนการรักษา ให้มีความปลอดภัย และให้ผลลัพธ์ที่ดูดีมากที่สุด
- ประเมิน และวางแผน – หลังจากทราบข้อจำกัด และเงื่อนไขการรักษาทั้งหมด แพทย์จะวิเคราะห์ และประเมินปัญหาของใบหน้าทั้งหมดให้คนไข้ทราบ ว่าควรรับบริการแบบไหน และควรรับบริการจุดใด เพื่อจะได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
- เข้ารับการผ่าตัด – หลังจากตกลงแผนการรักษาเรียบร้อยแล้ว แพทย์จะนัดวันเข้ารับการผ่าตัด ก่อนหน้านั้นคนไข้จะต้องเตรียมตัวให้พร้อม ดังข้อควรปฏิบัติในหัวข้อก่อน
- ดูแลหลังการผ่าตัด – ขั้นตอนนี้สำคัญไม่แพ้การผ่าตัด เพราะหากดูแลตัวเองดี แผลทั้งหมดจะสมาน และหายได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ควรเข้าไปติดตามผลการรักษาตามนัดอย่างต่อเนื่อง
พักฟื้นหลังการผ่าตัด ดึงคอ Full facelift
อย่างที่กล่าวไปว่า การพักฟื้น และดูแลตัวเองหลังผ่าตัด เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยให้แผลหายเร็ว และได้ผลลัพธ์การผ่าตัดที่ดียิ่งขึ้น ดังนั้นคนไข้ห้ามละเลยขั้นตอนปฏิบัติ และคำแนะนำจากแพทย์เจ้าของเคสอย่างเคร่งครัด หลังจากนั้นคุณก็จะได้ใบหน้าใหม่ที่เต่งตึง อ่อนเยาว์เสมือนย้อนอายุกลับไปวัยเด็กอีกครั้ง
- หลังผ่าตัดสามารถ ใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่อาจมีอาการตึง หรือปวดเล็กน้อย บริเวณแผลผ่าตัด สามารถทานยาแก้ปวดบรรเทาได้
- บริเวณที่ผ่าตัดอาจมี ลักษณะบวม เขียว หรือช้ำ หรืออาจเป็นบริเวณเปลือกตาบน หรือใต้ตาได้ ซึ่งจะค่อยๆ ลดลงภายใน 2-4 สัปดาห์
- หลังผ่าตัด ศัลยกรรมดึงหน้า พยาบาลจะทำการ พันผ้าไว้รอบศีรษะ ให้พันไว้ประมาณ 2-3 วัน จึงสามารถถอดออกได้
- 3 วันแรก ห้ามแผลโดนน้ำโดยเด็ดขาด เพื่อป้องกันการอับชื้น และอักเสบ ส่วนหลังผ่านไป 3 วันแล้ว สามารถล้างหน้า สระผมเบาๆ โดยไม่กระทบกับแผลได้
- ให้นอน หนุนหมอนสูง ในช่วงเดือนแรก เพราะจะช่วยลดอาการบวมช้ำได้ดี
- งด กิจกรรมที่มีความรุนแรง หรืออาจเกิดการกระทบกระเทือนบริเวณแผลผ่าตัด
- งดบุหรี่ และแอลกอฮอล์ 2-4 สัปดาห์เพื่อป้องกันแผลอักเสบ
ทำ Face Lifting ให้ปลอดภัย และสวยเลือกทำที่ Bujeong Clinic !
จะเห็นได้ว่าแม้จะเป็นการผ่าตัดศัลยกรรม แต่ Full Face Lift ก็เป็นหัตถการที่มีความเสี่ยงต่ำ แต่ได้ผลลัพธ์ที่มีคุณภาพสูง เห็นผลครั้งแรกตั้งแต่ทำเสร็จ และใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน นอกจากนี้ยังเต่งตึงยาวนานมากกว่า 10 ปี โดยไม่ต้องมาทำซ้ำ ดังนั้นเราขอแนะนำคลินิกที่มีทีมแพทย์ศัลยกรรมผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมเพื่อความสวยความงามโดยเฉพาะที่ Bujeong Clinic
Bujeong Clinic (ศูนย์ศัลยกรรมพูจองคลินิก) ของเรา เป็นคลินิกเสริมความงาม ที่ให้บริการศัลยกรรม และ หัตถการ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และ มาตรฐานความปลอดภัย โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และแพทย์เฉพาะทางศัลยกรรม ที่มากด้วยประสบการณ์ ที่พร้อมจะเนรมิตให้คุณสวยแบบที่ต้องการ นอกจากนั้นแล้วพูจองคลินิกยังมีสาขาให้เลือกมากมายถึง 10 สาขา ทั้งในกรุงเทพ และต่างจังหวัด เพราะความสวยไม่รอใคร อยากสวยเลือกทำที่ Bujeong Clinic !
มั่นใจ ปลอดภัย พูจองคลินิกส่งตรงความงาม แบบฉบับเกาหลี
สามารถติดตาม Bujeong Clinic สำหรับเสริมความงาม ช่องทางต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่
Facebook : Bujeong Clinic – พูจอง คลินิก
Line : @Bujeong-Clinic
Tel : 088-050-1111
สามารถติดตาม Bujeong Clinic Surgery Center สำหรับ ศัลยกรรมดึงหน้า ที่ช่องทางต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่
Facebook : Bujeong surgery center
Line : @bujeongsurgery
Tel : 061-042-2999