เสริมหน้าอก ใต้กล้ามเนื้อ เหนือกล้ามเนื้อ ต่างกันอย่างไร?

คิดจะเสริมหน้าอกต้องรู้!! สำหรับใครที่มีแพลน หรือกำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับการเสริมหน้าอกอยู่ นอกจากการรู้ว่าซิลิโคนนมทำมาจากอะไร มีกี่ประเภท มีกี่ทรงแล้ว ยังจะต้องคำนึงถึงรูปทรงเดิมของหน้าอกตัวเองด้วยว่าเป็นรูปทรงไหน เมื่อรู้แล้วเราก็จะสามารถเลือกทรงที่เหมาะกับเราได้ แต่รู้เพียงเท่านี้ก็อาจจะยังไม่พอ อีกสิ่งหนึ่งที่คุณควรที่จะรู้ก่อนเสริมหน้าอกนั่นก็คือ “ตำแหน่งการใส่ซิลิโคน” ซึ่งมีความสำคัญมากถ้าคุณไม่อยากเจอกับปัญหาที่จะตามมาหลังเสริมหน้าอก ได้ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาซิลิโคนพลิก ซิลิโคนเคลื่อน รวมถึงปัญหาอื่นๆ ตำแหน่งการใส่ซิลิโคนมีด้วยกันถึง 2 แบบทั้งการ เสริมหน้าอก ใต้กล้ามเนื้อ เหนือกล้ามเนื้อ ซึ่งทั้งสองแบบก็มีข้อดี และข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับว่าเราเหมาะกับแบบไหนมากกว่า การเสริมหน้าอกถ้าหากเลือกได้ถูกต้องก็จะทำให้เสริมออกมาดูดี และปลอดภัย แต่ถ้าเลือกไม่ดีอาจทำให้เกิดปัญหาตามมาได้

ดังนั้นวันนี้ Bujeong Clinic เลยจะมาบอกความแตกต่างของการวางตำแหน่งของซิลิโคนทั้งสองแบบให้คุณได้รู้ แล้วคุณจะตัดสินใจเลือกเสริมหน้าอกได้ถูกต้อง อย่ารอช้าไปอ่านบทความกันเลย!!

เสริมหน้าอก ใต้กล้ามเนื้อ เหนือกล้ามเนื้อ คืออะไร ?

หลายคนอาจจะยังงงอยู่ว่าเสริมใต้กล้ามเนื้อคืออะไร เหนือกล้ามเนื้อคืออะไร เราจะมาอธิบายให้คุณเข้าใจกันค่ะ ก่อนอื่นอย่างที่เรารู้กันว่า การเสริมหน้าอกเป็นการใส่ซิลิโคนเข้าไปในหน้าอกของเรา เพื่อปรับรูปทรงหน้าอกให้ได้รูป และมีขนาดใหญ่มากยิ่งขึ้น การที่เราจะใส่ซิลิโคนเข้าไปได้นั่น ไม่ใช่ว่าจะใส่ตำแหน่งไหนก็ได้ เพราะแต่ละตำแหน่งก็ส่งผลที่แตกต่างกัน

เสริมหน้าอกเหนือกล้ามเนื้อ

การเสริมหน้าอกเหนือกล้ามเนื้อ (Sub Grandular) เป็นการวางซิลิโคนไว้เหนือกล้ามเนื้อหน้าอก โดยจะวางซิลิโคนระหว่างชั้นของเนื้อนม และกล้ามเนื้อ (เนื้อนม – ซิลิโคน – กล้ามเนื้อ) การวางซิลิโคนไว้ตำแหน่งนี้เหมาะสำหรับ คนที่มีเนื้อหน้าอกพอสมควร ส่วนใครที่มีเนื้อหน้าอกน้อยต้องระวังให้ดี เพราะอาจทำให้เกิดปัญหาซิลิโคนลอยได้ แต่การเสริมหน้าอกตำแหน่งนี้มีข้อดีในเรื่องของ

ทำให้ใช้เวลาในการผ่าตัดไวกว่า เพราะการเสริมหน้าอกตำแหน่งนี้ไม่ซับซ้อนมากนัก จึงเหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลามากนัก
ทำให้แผลที่ออกมาไม่เจ็บเท่าการเสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อ ทำให้ใช้เวลาในการพักฟื้นไม่นานมากนัก แผลสามารถฟื้นตัวได้ไว
นอกจากนั้นการวางซิลิโคนตำแหน่งนี้จะช่วยให้หน้าอกได้รูป ได้ทรงสวยอีกด้วย เพราะทรงของซิลิโคนที่ได้จะชัด

แต่การเสริมหน้าอกตำแหน่งนี้ก็มีข้อเสียเหมือนกันตรงที่ แม้หน้าอกจะได้ทรงสวย แต่หน้าอกที่ได้อาจจะไม่เป็นธรรมชาติมากนัก เพราะจะเห็นขอบของซิลิโคนได้ชัด และเมื่อสัมผัสก็จะคลำเจอขอบซิลิโคนได้ นอกจากนั้นแล้วยังอาจส่งผลทำให้ซิลิโคนเคลื่อน หรือผิดรูปได้ง่ายกว่าในอนาคต และถ้าใครเป็นคุณแม่ที่ต้องให้นมลูกอาจจะไม่เหมาะสำหรับการเสริมหน้าอกตำแหน่งนี้ เพราะว่าอาจเกิดการปนเปื้อนของซิลิโคนเข้าไปในน้ำนมได้ เนื่องจากเป็นการวางซิลิโคนในชั้นที่ติดกับต่อมน้ำนมของผู้หญิงดังนั้นต้องระวังให้ดี นอกจากนั้นอาจทำให้เกิดปัญหาพังผืดรอบซิลิโคน และซิลิโคนหย่อนคล้อยได้อีกด้วย

เสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อ

การเสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อ (Sub Muscular) การวางซิลิโคนตำแหน่งนี้เป็นการวางซิลิโคนไว้ใต้กล้ามเนื้อหน้าอก ซึ่งจะวางซิลิโคนเอาไว้ระหว่างชั้นกล้ามเนื้อ และชั้นซี่โครง (กล้ามเนื้อ – ซิลิโคน – ซี่โครง) ทำให้กล้ามเนื้อสามารถคลุมซิลิโคนได้หมด สำหรับใครที่เนื้อหน้าอกน้อยวิธีนี้สามารถตอบโจทย์ได้ดี และข้อดีของการวางซิลิโคนในตำแหน่งนี้มีดังต่อไปนี้

หน้าอกจะมีความเป็นธรรมชาติ เนื่องจากเป็นการวางซิลิโคนใต้กล้ามเนื้อ ทำให้จะไม่เห็นขอบซิลิโคนโผล่ออกมา อีกทั้งยังทำให้เมื่อสัมผัสจะไม่คลำเจอขอบซิลิโคนอีกด้วย
ปัญหาหลังการเสริมหน้าอกน้อย โดยเฉพาะปัญหาพังผืดรอบซิลิโคน ที่ทำให้ซิลิโคนแข็งไม่เป็นธรรมชาติ
ช่วยลดความเสี่ยงเรื่องของปัญหาซิลิโคนพลิก ที่ทำให้ซิลิโคนผิดรูป เนื่องจากเป็นการวางเอาไว้ใต้กล้ามเนื้อ เลยทำให้โอกาสที่ซิลิโคนจะเกิดช่องวางจนทำให้ผิดรูปไปน้อยลง

ถึงแม้ว่าการวางซิลิโคนในตำแหน่งนี้จะทำให้เกิดปัญหาหลังเสริมหน้าอกได้น้อย แต่การเสริมหน้าอกแบบนี้เป็นเทคนิคการผ่าตัดที่ค่อนข้างซับซ้อน ทำให้ใช้เวลาในการผ่าตัดที่นาน ทำให้แพทย์ที่ทำการผ่าตัดจะต้องมีความชำนาญมากๆ นอกจากนั้นแล้วแผลที่ได้ก็จะเจ็บมากกว่าการวางซิลิโคนใต้กล้ามเนื้อ จึงต้องใช้เวลาในการพักฟื้นที่นานกว่า

เทียบกันไปเลยเสริมหน้าอกตำแหน่งไหนดีกว่ากัน ?

เมื่อเรารู้จักรูปแบบการเสริมหน้าอกของตำแหน่งต่างๆ กันไปแล้ว ก็คงทำให้คุณสามารถมองภาพรวมของรูปแบบการวางตำแหน่งซิลิโคนได้มากขึ้นแล้ว แต่เพราะตำแหน่งทั้ง 2 รูปแบบก็มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป จึงทำให้หลายคนเกิดความลังเลขึ้น ดังนั้นเราจะมาเทียบการวางซิลิโคนทั้งสองแบบให้เห็นไปเลย ว่าแบบไหนดีตรงไหน และแบบไหนเหมาะกับคุณ

อาการเจ็บ และ การพักฟื้น

การเสริมหน้าอกเป็นธรรมดาที่จะต้องมีแผลจากการผ่าตัด ซึ่งในช่วงแรกหลังจากการผ่าตัดมาใหม่ๆ จะมีอาการบวม และเจ็บบริเวณแผล การเลือกตำแหน่งการวางซิลิโคนสามารถใช้บอกระยะเวลาในการพักฟื้นของแผลคร่าวๆ ได้ หากเป็นการเสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อ จะรู้สึกเจ็บแผลมากว่าการเสริมหน้าอกเหนือกล้ามเนื้อ เนื่องจากเป็นการผ่าตัดที่ต้องทำการเปิดกล้ามเนื้อ นอกจากนั้นยังทำให้ใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นที่ยาวนานมากกว่า เพราะต้องรอให้กล้ามเนื้อฟื้นฟู ซึ่งต่างจากแผลที่ชั้นเนื้อนมของการเสริมหน้าอกเหนือกล้ามเนื้อที่เข้าที่ได้ง่าย และแผลหายได้ไว

ความยากง่ายในการเสริมหน้าอก

การเสริมหน้าอกเหนือกล้ามเนื้อ เป็นเทคนิคในการเสริมหน้าอกที่ไม่ยุ่งยาก และซับซ้อนมากนัก จึงทำให้สามารถผ่าตัดได้ง่ายกว่าแบบวางซิลิโคนใต้กล้ามเนื้อ เนื่องจากเป็นการเสริมหน้าอกที่ไม่ได้ผ่าตัดเข้าไปในชั้นกล้ามเนื้อ เป็นการเสริมซิลิโคนที่มีเทคนิคที่คล้ายกับการเสริมจมูก ส่วนการเสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อ การผ่าตัดรูปแบบนี้ค่อนข้างจะยาก และซับซ้อน แพทย์ที่จะเสริมหน้าอกตำแหน่งนี้จะต้องมีความเชี่ยวชาญ และชำนาญ จึงจะทำให้การเสริมหน้าอกออกมาดี และมีความปลอดภัย

รูปทรงของหน้าอกที่ได้

หากเป็นการเสริมหน้าอกเหนือกล้ามเนื้อ หน้าอกที่ได้จะเป็นทรงชัดจน และดูสวยดูกระชับ เนื่องจากเป็นการใส่ซิลิโคนในชั้นที่ติดกับเนื้อนมเลย ทำให้เห็นทรงซิลิโคนได้เต็มที่ ใครที่มีเนื้อหน้าอกพอสมควร การเสริมหน้าอกรูปแบบนี้ หน้าอกจะได้ทรงสวยมากๆ และมีความกระชับสูง แต่ก็อาจจะทำให้เกิดกรณีที่เห็นขอบซิลิโคนได้ชัดเช่นกัน ยิ่งใครที่เนื้อนมน้อยยิ่งเห็นขอบซิลิโคนได้ง่าย ส่วนถ้าเสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อ รูปทรงอาจจะไม่เป็นทรงชัดเท่าแบบเหนือกล้ามเนื้อ แต่หน้าอกที่ได้จะมีความเป็นธรรมชาติมากกว่า ไม่เห็นขอบของซิลิโคน และยิ่งเวลาสัมผัสก็จะคลำไม่เจอขอบ ไม่เจอรอยย่นของซิลิโคน

หากคุณเป็นคนที่ชอบทรงชัดๆ และมีเนื้อหน้าอกพอสมควรก็ให้เลือกแบบเหนือกล้ามเนื้อ แต่ถ้าใครที่อยากได้หน้าอกเป็นธรรมชาติ และมีเนื้อหน้าอกน้อยก็ให้เลือกเสริมใต้กล้ามเนื้อ

ปัญหาหลังเสริมหน้าอก

โดยปกติแล้วปัญหาหลังเสริมหน้าอกเป็นสิ่งที่สามารถพบได้ ทั้งจากการปฏิบัติตนของผู้ที่เสริมหน้าอกเอง และทั้งที่มาจากการผ่าตัดเสริมหน้าอก ปัญหาที่พบได้บ่อยหลังการเสริมหน้าอกนั่นก็คือ ปัญหาการเกิดพังผืดรอบซิลิโคน จนทำให้ซิลิโคนแข็งไม่เป็นธรรมชาติ หากเป็นการเสริมหน้าอกเหนือกล้ามเนื้อจะทำให้เกิดปัญหาพังผืดได้มากกว่า เพราะเมื่อใส่ซิลิโคนเข้าไปกล้ามเนื้อไม่ได้เคลื่อนที่ เนื่องจากเวลาที่เรานวดหน้าอกจะนวดในส่วนที่เป็นเนื้อนมเท่านั้น

อีกทั้งยังอาจทำให้เกิดปัญหาซิลิโคนเคลื่อนได้ง่าย เพราะว่าไม่มีตัวยึดซิลิโคนเหมือนกับการเสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อ ที่จะวางซิลิโคนระหว่างชั้นกล้ามเนื้อ และซี่โครง ชั้นกล้ามเนื้อจะเป็นตัวยึดซิลิโคนไม่ให้เคลื่อนที่ หรือพลิกกลับด้านได้ หากเสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อเราจะเจอกับปัญหาหลังเสริมหน้าอกได้น้อยกว่า แต่ก็ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติตัวหลังเสริมหน้าอกของแต่ละคนด้วย

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ พอจะเห็นความแตกต่างของการเสริมหน้าอกทั้งสองแบบมากขึ้นหรือยัง หากคุณเป็นคนที่ไม่ได้มีเวลาในการพักฟื้นมากนัก และมีเนื้อหน้าอกเป็นทุนเดิมอยู่แล้วการเลือกเสริมแบบเหนือกล้ามเนื้อถือว่าเหมาะกับคุณ แต่ถ้าคุณมีเวลาในการพักฟื้น และไม่อยากเจอปัญหาหลังเสริมหน้าอกมากนัก รวมถึงยังเป็นคนที่มีเนื้อหน้าอกน้อย แนะนำให้เลือกการเสริมใต้กล้ามเนื้อ น่าจะเหมาะกับคุณมากกว่า

อย่างที่เราได้บอกไปแล้วว่าการเสริมหน้าอกแต่ละแบบ ไม่มีแบบไหนที่ดีไปทุกอย่าง แต่ถ้าอยากจะเสริมหน้าอกให้ออกมาดี ควรเลือกรูปแบบการเสริมหน้าอกที่เหมาะกับเรา และเลือกคลินิกที่ดี มีความปลอดภัยอย่าง Bujeong Clinic คลินิกที่รวมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทั้งไทย และ เกาหลี ที่มากด้วยประสบการณ์ที่จะช่วยให้เนรมิตหน้าอกทรงสวยในแบบที่คุณต้องการ อยากได้หน้าอกสวย และปลอดภัย เลือกทำที่พูจอง!!!

เสริมหน้าอก ใต้กล้ามเนื้อ เหนือกล้ามเนื้อ กับBujeong Clinic

Bujeong Clinic (ศูนย์ศัลยกรรมพูจองคลินิก) เป็นคลินิกเสริมความงาม ที่ให้บริการศัลยกรรม และ หัตถการ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และ มาตรฐานความปลอดภัย โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ทั้งแพทย์ไทย และ แพทย์เกาหลี ที่มากด้วยประสบการณ์ ที่พร้อมจะเนรมิตให้คุณสวยแบบที่ต้องการ นอกจากนั้นแล้วพูจองคลินิกยังมีสาขาให้เลือกมากมายถึง 10 สาขา ทั้งในกรุงเทพ และ ต่างจังหวัด เพราะความสวยไม่รอใคร อยากสวยเลือกทำที่ Bujeong Clinic สิคะ!!!