ซิลิโคนจมูก อยู่ได้กี่ปี ? คำถามยอดฮิตที่คนเสริมจมูกอยากรู้

ใครที่คิดจะเสริมจมูกต้องอ่าน!! จมูกทรงสวย และมีมิติ คงเป็นอีกหนึ่งความฝันของใครหลายๆ คน เพราะจมูกที่มีทรงสวย จะทำให้ใบหน้าดูมีมิติมากยิ่งขึ้น แต่หลายคนก็มีความกังวลว่าถ้าเสริมจมูกไปแล้ว ซิลิโคนจมูก อยู่ได้กี่ปี ? เพราะกลัวว่าจะต้องทำการผ่าตัดเสริมจมูกหลายรอบ หรือกังวลเรื่องอายุของซิลิโคน เนื่องจากซิลิโคนจมูกมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ หลายยี่ห้อ และยังมีหลายประเทศผู้ผลิตอีกด้วย ทำให้หลายๆ คนเกิดความลังเลว่าจะเสริมจมูกดีไหม

วันนี้ Bujeong Clinic จะมาไขข้อสงสัยเรื่อง อายุการใช้งานของซิลิโคน ที่หลายๆ คนอยากจะรู้ ว่าจริงๆ แล้วซิลิโคนจมูกอยู่ได้กี่ปีกันแน่ คนที่มีแพลนจะเสริมจมูก หรือกำลังสงสัยเรื่องนี้ไม่ควรพลาดบทความนี้เลย!!

มาทำความรู้จัก ซิลิโคนจมูกกันดีกว่า ?

ก่อนที่จะไปไขข้อสงสัยเรื่องของอายุการใช้งานของซิลิโคนจมูก มาทำความรู้จักซิลิโคนจมูกกันก่อนดี ซิลิโคนจมูกจะมีด้วยกัน 2 รูปแบบหลักๆ ได้แก่

ซิลิโคนสำเร็จรูป เป็นซิลิโคนที่ใช้งานได้ง่าย เพราะมีรูปทรงอยู่แล้ว ทำให้ช่วยลดเวลาในการผ่าตัด อีกทั้งยังช่วยลดโอกาสที่ซิลิโคนจะเบี้ยวได้มาก ซึ่งรูปทรงซิลิโคนสำเร็จรูปก็มีให้เลือกหลากหลายทรง ไม่ว่าจะเป็นทรงแมนทิส ทรงบาร์บี้ ทรงบราว และทรงซินเดอเรลล่า แต่ละทรงก็จะมีจุดเด่นไม่เหมือนกัน ทำให้ควรจะเลือกทรงให้เหมาะกับเนื้อจมูก
ซิลิโคนแบบแท่ง เป็นซิลิโคนที่จะใช้การเหลา เพื่อให้ได้รูปทรงที่เข้ากับใบหน้า ตัวซิลิโคนจะไม่ยุบตัวง่าย และไม่แข็งจนเกินไป ทำให้ได้ทรงจมูกที่ดูสวย และเป็นธรรมชาติ ซึ่งซิลิโคนแบบแท่ง จะแบ่งประเภทของซิลิโคนตามชนิดของวัสดุ ซึ่งจะมีชนิดที่เป็นซิลิโคนแบบแข็งได้แก่ ซิลิโคนแบบ Hard และ Medium ส่วนซิลิโคนแบบนุ่มได้แก่ ซิลิโคนแบบ Soft และ Ultra Soft

นอกจากรูปแบบของซิลิโคนแล้ว ซิลิโคนจมูกแต่ละประเทศก็ยังมีรูปแบบ และรูปทรงที่แตกต่างกันอีกด้วย โดยซิลิโคนส่วนใหญ่ที่นิยมนำมาเสริมจมูก มักจะเป็นซิลิโคนของประเทศอเมริกา ญี่ปุ่น และเกาหลี ซึ่งแต่ละทรงจะมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นจึงต้องเลือกให้เหมาะกับใบหน้า หากใครที่กำลัง ลังเลว่าจะเลือกซิลิโคนจมูกอย่างไรดี หรืออยากรู้ข้อมูลของซิลิโคนจมูกเพิ่มเติม สามารถอ่านเพิ่มเติมในบทความด้านล่างนี้ได้เลย

>> อ่านบทความ ซิลิโคนจมูก มีกี่ประเภทเลือกอย่างไรให้เหมาะกับเรา ได้ที่นี่ <<

ซิลิโคนจมูก อยู่ได้กี่ปี มีอายุการใช้งานเท่าไหร่ ?

เมื่อรู้จักรูปทรง และประเภทของซิลิโคนจมูกคร่าวๆ ไปแล้ว จะเห็นได้ว่าซิลิโคนแต่ละรูปแบบก็มีข้อดี และประเภทของซิลิโคนที่แตกต่างกันออกไป แล้วซิลิโคนจมูกมีอายุการใช้งานกี่ปีกันนะ?

หลายคนอาจจะคิดว่าซิลิโคน สามารถเสื่อมสภาพได้ เมื่อใช้งานมาในระยะเวลาหนึ่งแล้ว เมื่อเคยเห็นเคสที่ซิลิโคนทะลุ หรือซิลิโคนเน่ามาแล้ว รู้หรือไม่ว่าจริงๆ แล้ว ซิลิโคนที่ใช้เสริมจมูก สามารถอยู่ได้นานตลอดไป และไม่มีวันหมดอายุ เนื่องจากซิลิโคนที่นำมาเสริมจมูก จะเป็นซิลิโคนเกรดการแพทย์ (Medical Grade) ซึ่งมีความปลอดภัยต่อร่างกาย ทำให้ไม่ต้องกลัวว่าซิลิโคนจะหมดอายุ แล้วเกิดปัญหาตามมา

แต่ก็มีหลายคนที่เคยได้ยินว่า ต้องเปลี่ยนซิลิโคนใหม่ทุก 5 – 10 ปี จริงๆ แล้วการที่ต้องเปลี่ยนซิลิโคนไม่ได้มาจากการที่ ซิลิโคนหมดอายุแต่อย่างใด แต่มาจากสาเหตุอื่นๆ อย่างเช่น เกิดปัญหาหลังเสริมจมูก หรือซิลิโคนจมูกเสื่อมสภาพ รวมไปถึงวิธีในการดูแลซิลิโคน และการปฏิบัติตัวของผู้ที่เสริมจมูกอีกด้วย ดังนั้นไม่ต้องกังวลเลยว่าเมื่อผ่านไปนานๆ แล้วซิลิโคนจะหมดอายุ

เหตุผลที่ทำให้ต้องเปลี่ยนซิลิโคนจมูกใหม่ ?

แม้ซิลิโคนจมูกจะอยู่ได้ถาวร และไม่มีวันหมดอายุก็ตาม แต่ก็มีบางกรณีที่ทำให้ต้องเปลี่ยนซิลิโคนใหม่ ซึ่งสาเหตุเหล่านั้นสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งจากตัวของเราเอง การผ่าตัด การเลือกซิลิโคนที่ไม่เหมาะสม รวมถึงจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตของเรา สิ่งต่างๆ เหล่านี้ล้วนเป็นหนึ่งในสาเหตุ ที่ทำให้ต้องเปลี่ยนซิลิโคนจมูกใหม่ด้วยกันทั้งสิ้น เพราะจะนำมาซึ่งปัญหาหลังเสริมจมูกได้

สาเหตุจากตัวของเราเอง

ตัวของเราก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุ ที่ทำให้เมื่อเสริมจมูกไปนานๆ แล้วจะต้องเปลี่ยนซิลิโคนจมูกใหม่ ซึ่งสามารถเกิดได้จากหลายปัจจัย แต่ส่วนใหญ่เกิดจากปัจจัยเหล่านี้

อายุที่เพิ่มมากขึ้น เมื่ออายุมากขึ้น ก็ทำให้ผิวหนังที่ใส่ซิลิโคนอยู่เปลี่ยนสภาพไป เช่น ผิวหนังหย่อนคล้อยลง ซึ่งอาจส่งผลทำให้ซิลิโคนเคลื่อนได้ เนื่องจากซิลิโคนไม่สามารถยึดติดกับผิวได้เหมือนเดิม นอกจากนั้นอาจจะเกิดจากความตึงผิวได้อีกด้วย ทำให้เมื่อผิวตึงมากๆ อาจส่งผลทำให้ผิวบางลง และอาจทำให้เกิดปัญหาซิลิโคนลอยขึ้นได้
ซิลิโคนไม่เหมาะกับร่างกาย บางคนร่างกายไม่เหมาะกับซิลิโคน ทำให้เมื่อเสริมจมูกไปแล้ว เกิดปัญหาหลังเสริมจมูกตามมา จึงทำให้ต้องถอดซิลิโคนจมูกออก แล้วเปลี่ยนมาใช้อย่างอื่นๆ แทนซิลิโคน ไม่ว่าจะเป็น กระดูกอ่อน หรือเนื้อเยื่อเทียม เป็นต้น เลยทำให้ต้องเสริมจมูกไม่ใช้ซิลิโคนแทน
เนื้อจมูกไม่เหมาะสมกับไซซ์ของซิลิโคน สิ่งสำคัญในการเสริมจมูก นั่นก็คือเนื้อจมูก ซึ่งแต่ละคนจะมีเนื้อจมูกไม่เท่ากัน บางคนมีเนื้อจมูกมาก บางคนมีเนื้อจมูกน้อย โดยเนื้อจมูกที่เป็นเนื้อบริเวณสันจมูกไปจนถึงบริเวณหัวตา จะเป็นส่วนที่จะใส่ซิลิโคนเข้าไป หากเนื้อจมูกน้อย จะทำให้ใส่ซิลิโคนที่มีความโด่ง หรือความพุ่งได้น้อย เนื่องจากเนื้อจมูกที่น้อย มักจะมีลักษณะเนื้อที่ค่อนข้างตึง ทำให้ไม่มีความยืดหยุ่นมากพอที่จะใส่ซิลิโคนที่โด่งมากเข้าไป หากเลือกไซซ์ซิลิโคนไม่เหมาะสมกับเนื้อจมูก จะทำให้เกิดปัญหาตามมา และต้องทำการเปลี่ยนซิลิโคนจมูกใหม่ได้
พฤติกรรมการใช้ชีวิตไม่เหมาะสม การดูแลตัวเองหลังเสริมจมูกเป็นอะไรที่สำคัญมาก และยิ่งเวลาผ่านไปนานๆ แม้แผลจะหายดีแล้ว แต่หากปฏิบัติตัวไม่เหมาะสม ก็อาจทำให้เกิดปัญหาตามมาได้ เช่น การไม่ดูแลความสะอาดให้ดี หรือปล่อยให้แผลโดนน้ำ การทานอาหาร หรือพฤติกรรมเสี่ยงอื่นๆ รวมถึงการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงที่จมูกอีกด้วย

สำหรับใครที่เนื้อจมูกน้อย ก็ต้องมาประเมินก่อนว่า เนื้อจมูกของคุณสามารถเสริมจมูกได้หรือไม่ เพราะถ้าเนื้อจมูกน้อยมากๆ อาจทำให้ไม่สามารถใส่ซิลิโคนที่โด่งมากได้ ซึ่งเนื้อจมูกจะมีด้วยกัน 3 ระดับ การที่เรารู้เนื้อจมูกของตัวเอง จะช่วยลดความเสี่ยงต่อปัญหาที่จะตามมาหลังเสริมจมูกได้ เช่น ปัญหาจมูกตึง เสริมออกมาไม่เป็นธรรมชาติ และปัญหาซิลิโคนจมูกทะลุ

>> สามารถอ่านบทความ เนื้อจมูกน้อย ทําจมูกได้ไหม ได้ที่นี่ <<

อีกทั้งถ้าใครที่เนื้อจมูกน้อยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และยังจะเลือกไซซ์ของจมูกที่โด่งจนเกินไป หรือปฏิบัติตัวไม่เหมาะสม ก็อาจทำให้เกิดปัญหาหลังเสริมจมูกตามมาได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น

ซิลิโคนจมูกทะลุ ที่ทำให้เนื้อจมูกบาง และรูปทรงจมูกเปลี่ยนไป อีกทั้งยังรวมไปถึงการที่ปลายจมูกเปลี่ยนสีอีกด้วย ซึ่งหากปล่อยไว้นานๆ อาจทำให้เกิดการติดเชื้อขึ้นได้
ซิลิโคนจมูกลอย เป็นอาการที่เกิดจากการที่ซิลิโคนไม่ติดกับเนื้อจมูก เป็นผลทำให้ซิลิโคนสามารถขยับได้ ทำให้เกิดปัญหาซิลิโคนเคลื่อนตามมา และถ้าหากซิลิโคนเลื่อนลงมาที่ปลายจมูกจนเสียดสี อาจทำให้ปลายจมูกบาง จนซิลิโคนทะลุได้
จมูกเบี้ยว เอียง เป็นปัญหาที่เกิดจากการที่ซิลิโคนเคลื่อนตัวออกจากแกนจมูก ทำให้จมูกไม่สมมาตรกัน ซึ่งจะทำให้จมูกเสียรูปทรง และเกิดปัญหาหลังเสริมจมูกอื่นๆ ตามมาได้
แผลเสริมจมูกติดเชื้อ เป็นอาการที่มักจะทำให้ปลายจมูกแดง และบวม นอกจากนั้นยังทำให้รู้สึกเจ็บบริเวณจมูก และอาจมีน้ำเหลือง และเลือดออกมาจากจมูก ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนตามมาได้

ใครที่ไม่อยากมีปัญหาหลังเสริมจมูกตามมา การดูแลตัวเองหลังเสริมจมูกนั้นสำคัญมาก ซึ่งจะต้องปฏิบัติตัวให้เหมาะสม ใครที่อยากรู้วิธีดูแลตัวเอง สามารถอ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ด้านล่างนี้

>> อ่านบทความ วิธีดูแลตัวเองหลังเสริมจมูก อย่างไรให้ปลอดภัย!! ได้ที่นี่ <<

สาเหตุจากการผ่าตัด

นอกจากสาเหตุที่มาจากตัวเราเองแล้ว อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ต้องเปลี่ยนซิลิโคนจมูก อาจมาจากการผ่าตัดที่ผิดพลาดได้ ไม่ว่าจะเป็น

ไม่ได้ตะไบ หรือเหลาฮัมพ์ ฮัมพ์ของจมูกคือบริเวณของส่วนที่นูนขึ้นมาตรงสันจมูก โดยปกติการเสริมจมูกจะต้องมีการตะไบ หรือเหลาฮัมพ์ เพื่อใช้ในการปรับพื้นจมูก ให้เวลาที่เสริมจมูกมาจมูกจะได้ไม่เป็นคลื่น และช่วยลดปัญหาจากการเสริมจมูก เนื่องจากซิลิโคนจมูกจะได้แนบชิดกับเนื้อจมูกมากยิ่งขึ้น หากไม่ตะไบฮัมพ์อาจทำให้เกิดปัญหาซิลิโคนเคลื่อน หรือซิลิโคนลอยได้

ซิลิโคนจมูกไม่มีวันหมดอายุ ดังนั้นไม่ต้องกังวลว่าเมื่อเสริมจมูกไปนานๆ จะเกิดปัญหาตามมา แต่ให้ระมัดระวังเรื่องของการปฏิบัติตัว และปัจจัยอื่นๆ ที่จะส่งผลกับซิลิโคนจมูก จนทำให้ต้องเปลี่ยนซิลิโคนใหม่ โดยเฉพาะการลดบวมหลังเสริมจมูก และเรื่องของแผลเสริมจมูกติดเชื้อ นอกจากนั้นการเลือกคลินิกเสริมจมูกให้ดี และมีมาตรฐานก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัย ที่จะช่วยลดปัญหาหลังเสริมจมูกอื่นๆ ลงได้ อย่างเช่นที่ Bujeong Clinic คลินิกที่รวมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทั้งไทย และ เกาหลี ที่มากด้วยประสบการณ์ที่จะช่วยเนรมิตจมูกทรงสวยให้กับคุณ อยากมีจมูกสวยเลือกทำที่พูจอง!!!

ซิลิโคนจมูก อยู่ได้กี่ปี อยากเสริมจมูกให้ปังเลือกที่ Bujeong Clinic

Bujeong Clinic (ศูนย์ศัลยกรรมพูจองคลินิก) เป็นคลินิกเสริมความงาม ที่ให้บริการศัลยกรรม และ หัตถการ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และ มาตรฐานความปลอดภัย โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ทั้งแพทย์ไทย และ แพทย์เกาหลี ที่มากด้วยประสบการณ์ ที่พร้อมจะเนรมิตให้คุณสวยแบบที่ต้องการ นอกจากนั้นแล้วพูจองคลินิกยังมีสาขาให้เลือกมากมายถึง 10 สาขา ทั้งในกรุงเทพ และ ต่างจังหวัด เพราะความสวยไม่รอใคร อยากสวยเลือกทำที่ Bujeong Clinic สิคะ